fbpx

สรุปสูตร excel เพื่องานบัญชีที่ง่ายขึ้น

มีนาคม 31, 2021

Excel กับบัญชี เป็นของคู่กัน ถ้าไม่มี excel นักบัญชีอย่างเราๆ คงทำงานยากขึ้นมากโขเลยทีเดียวค่ะ

ในบทความนี้เราจะมาสรุปสูตร excel เทพ ที่นักบัญชีไม่รู้ไม่ได้แล้ว รวมถึง shortcut ต่าง ๆ ที่จะช่วยให้การทำงานบัญชีของเราเร็วขึ้นอย่างที่เราคิดไม่ถึงเลยค่า

สูตร excel

  • SUM

=sum(b1:b8) 

เพื่อหาผลรวมของค่าที่เลือกทั้งหมด

  • SUMIF / SUMIFS

=sumif(a1:a8,”yes”,b1:b8)

=sumifs(b1:b8,a1:a8,”yes”,c1:c8,”A”)

เพื่อหาผลรวมของค่าที่เลือกที่จะต้องตรงกับ criteria หรือ เกณฑ์ ที่กำหนดไว้

เช่น ในตัวอย่าง

=sumif(a1:a8,”yes”,b1:b8) คือผลรวมของ column B ที่มีค่าใน column A เป็น yes 

=sumifs(b1:b8,a1:a8,”yes”,c1:c8,”A”) คือผลรวมของ column B ที่มีค่าใน column A เป็น yes และ column C เป็น A

Note: Sumif ใช้สำหรับการหาผลรวมที่มี criteria เดียว และ Sumifs ใช้สำหรับการหาผลรวมที่มี criteria มากกว่า 1 อย่าง

  • COUNT

=count(b1:b8) 

เพื่อนับจำนวนของค่าที่เลือกทั้งหมด

  • COUNTIF / COUNTIFS

=countif(a1:a8,”yes”)

=countifs(a1:a8,”yes”,c1:c8,”A”)

เพื่อหานับจำนวณของค่าที่เลือกที่จะต้องตรงกับ criteria หรือ เกณฑ์ ที่กำหนดไว้

เช่นในตัวอย่าง

=countif(a1:a8,”yes”) คือ จำนวนของค่าใน column A ที่เป็น yes 

=countifs(a1:a8,”yes”,c1:c8,”A”) คือจำนวนของค่าใน column A ที่เป็น yes และ column C ที่เป็น A

Note: countif ใช้สำหรับการหานับที่มี criteria เดียว และ countifs ใช้สำหรับการนับที่มี criteria มากกว่า 1 อย่าง

  • VLOOKUP

คือการนำค่าในตาราง lookup table มาแสดงในให้ตรงกับ lookup value ที่เราต้องการ

=vlookup(lookup value, lookup table, ลำดับของ column ที่ต้องการให้แสดง, 0 หรือ 1)

Lookup value: จากในตัวอย่างก็คือ ค่า A B C ในแถวที่ 10,11,12

Lookup table: จากในตัวอย่างก็คือตารางด้านบนที่คลุมตั้งแต่แถวที่ 1-8

ลำดับของ column: ในที่นี้เราต้องการให้แสดงค่าตัวเลข 10-80 ก็จะเป็น column ที่ 3

0 หรือ 1: ในที่นี้อาจใส่เป็น TRUE หรือ FALSE ก็ได้ ซึ่ง 0=False 1=True โดยมีความหมายดังนี้

0 คือ exact match คือ lookup value กับ lookup table จะต้องมีค่าตรงกันแป๊ะๆเท่านั้น

1 คือ approximate match คือ lookup value กับ lookup table อาจจะแค่มีค่าใกล้ๆกัน ก็ให้ lookup มาได้แล้วค่ะ

Note: column แรก ของ Lookup table จะต้องสามารถ match กับ lookup value ได้เท่านั้นนะคะ ไม่สามารถ lookup จาก column อื่นๆ ได้ค่ะ สำหรับสูตรนี้

  • LEN

ใช้สำหรับนับ character ที่มีอยู่ใน cell ที่เลือก

ใช้ดีมากๆ เวลาที่เราจะต้องเช็คว่ารหัสสินค้า หรือ รหัส invoice ที่อยู่ในตารางมี digit เกินกว่าที่ควรจะเป็นหรือไม่ค่ะ

  • TRIM

ใช้สำหรับ clear พวก เว้นวรรค ที่ติดมากับ cell เวลาที่ดึงข้อมูลมาเป็น text file แล้วมาเปิดใน excel แล้วมีเว้นวรรคติดมากับพวกรหัส หรือตัวเลข เพื่อที่จะสามารถใช้คำนวนต่อใน excel ได้ค่า

  • LEFT / RIGHT / MID

ใช้สำหรับเลือกบางส่วนของข้อมูลในcell นั้น ๆ เช่น เราต้องการแค่รหัสหมวดบัญชี1-5 ของรหัสบัญชี 5 หลัก เราก็สามารถใช้สูตร Left เพื่อเลือกแค่รหัสแรกซึ่งบ่งบอกถึงหมวดบัญชีขึ้นมาก็ได้ค่ะ

รหัส 12345 >> =left(รหัส 12345,1-จำนวน digit ที่ต้องการให้แสดง นับจากทางซ้าย) >> 1

  • & / CONCAT

ใช้สำหรับเชื่อมข้อมูลของ cell ต่าง ๆ เข้าด้วยกัน จะใช้เป็น 

A&B => AB หรือ

concat(a,b) => ab ก็ได้ค่า

Excel shortcut

  1. Insert cell (ctrl + shift + “+”)
  2. Delete cell (ctrl + shift + “-”)
  3. Select row (shift + spacebar)
  4. Select column (ctrl + spacebar)
  5. Copy (ctrl+c)
  6. Paste (ctrl+v)
  7. Paste special (ctrl + alt + v)
  8. Select Filter (alt + arrow)

อบรมเก็บชั่วโมงผู้ทําบัญชี ผู้สอบบัญชี (CPD) ออนไลน์ learncpd.com