คงปฏิเสธไม่ได้เลยว่า ในปัจจุบันนี้การขายของออนไลน์กลายเป็นอาชีพที่ทำเงินได้ดี และ ทำกันอย่างแพร่หลายมาก ๆ เพราะการขายของออนไลน์นั้น ไม่จำเป็นต้องมีหน้าร้าน แถมยังทำควบคู่ไปกับงานประจำได้อีกด้วย
เมื่อการขายของออนไลน์เป็นที่นิยมขึ้นมา บวกกับความสามารถในการสร้างรายได้นั้นเพิ่มขึ้น แม่ค้า พ่อค้าร้านออนไลน์ ก็ต้องถูกเพ่งเล็งจากกรมสรรพากรเป็นธรรมดา เพราะพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ก็มีหน้าที่ในการเสียภาษีด้วยเช่นกัน ดังนั้นในบทความนี้ เราจะมาสรุปภาษีร้านค้าออนไลน์กันค่ะ ว่ามีอะไรบ้าง และ คำนวณอย่างไรบ้าง
ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา
การขายของออนไลน์ในบทความนี้ เราจะเจาะลึกในการขายของออนไลน์ในลักษณะของบุคคลธรรมดา ไม่ได้มีการจดทะเบียนห้างหุ้นส่วน หรือ บริษัท ร้านค้าออนไลน์เหล่านี้จึงจะต้องเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาประเภทที่ 8 เงินได้จากการค้าขาย ซึ่งจะต้องยื่นภาษี 2 ช่วงเวลาต่อปี ดังนี้ค่ะ
การคำนวณภาษี
การคำนวณภาษีเงินได้แบบบุคคลธรรมดานั้น คำนวณได้ดังนี้ค่ะ
(รายได้ – ค่าใช้จ่าย – ค่าลดหย่อน) x อัตราภาษี = ภาษีที่ต้องจ่าย
สามารถคำนวณได้ 3 แบบ จุดสำคัญอยู่ที่ ค่าใช้จ่าย และ ค่าลดหย่อน นั่นเองค่ะ
*กรณีที่พ่อค้า แม่ค้าออนไลน์มีรายได้ (ย้ำนะคะว่ารายได้ ไม่ใช่กำไร) เกิน 1.8 ล้านบาทต่อปี จะต้องจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) ด้วยนะคะ โดยปัจจุบันยังจัดเก็บอยู่ที่ 7% ค่ะ
ค่าใช้จ่ายที่นำมาคำนวณภาษีได้
ก่อนที่จะมาดูกันว่าการลดหย่อนและอัตราภาษีมีอะไรบ้าง เรามาทำความเข้าใจคำศัพท์ทางภาษีกันก่อนนะคะ
การลดหย่อนภาษี
การลดหย่อนภาษี คือ รายการค่าใช้จ่ายอื่นๆ ที่สรรพากรประกาศให้นำมาหักลบกับรายได้ เพื่อให้เราคำนวณ รายได้สุทธิ ออกมา และนำไปเปรียบเทียบคิดภาษีกับตารางอัตราภาษี หรือที่เรียกว่า การคำนวณภาษีแบบขั้นบันใดค่ะ
แต่ละปี สรรพากรจะประกาศลดหย่อนไม่เท่ากัน สำหรับของปี 2563 เพื่อยื่นภาษีในปี 2564 มีค่าใช้จ่ายอะไรที่สามารถนำมาลดหย่อนภาษีได้บ้างมาดูกันค่ะ
1. กลุ่มค่าลดหย่อนส่วนตัวและครอบครัว
2. กลุ่มประกัน เงินออม และการลงทุน
3. กลุ่มลดหย่อนเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์
4. กลุ่มเงินบริจาค
5. กลุ่มค่าลดหย่อนตามมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐ
เงินได้สุทธิต่อปี | อัตราภาษี |
1. กลุ่มค่าลดหย่อนส่วนตัวและครอบครัว | |
ค่าลดหย่อนส่วนตัว | 60,000 บาท |
ค่าลดหย่อนคู่สมรส | 60,000 บาท |
ค่าลดหย่อนบุตร | คนละ 30,000 – 60,000 บาท |
ค่าลดหย่อนบิดา – มารดา | คนละ 30,000 บาท |
ค่าลดหย่อนผู้พิการหรือทุพพลภาพ | คนละ 60,000 บาท |
ค่าฝากครรภ์และทำคลอด | จ่ายตามจริงและไม่เกินท้องละ 60,000 บาท |
2. กลุ่มประกัน เงินออม และการลงทุน | |
ประกันสังคม | 5,850 บาท |
เบี้ยประกันชีวิตทั่วไป/เงินฝากแบบมีประกันชีวิต | ตามที่จ่ายจริงแต่รวมกันต้องไม่เกิน 100,000 บาท |
เบี้ยประกันสุขภาพตนเอง | จ่ายตามจริงแต่ไม่เกิน 25,000 บาท และเมื่อรวมกับเบี้ยประกันทั่วไปแล้วต้องไม่เกิน 100,000 บาท |
เบี้ยประกันสุภาพบิดา – มารดา | จ่ายตามจริงแต่ไม่เกิน 15,000 บาท |
เบี้ยประกันชีวิตบำนาญ | 15% ของเงินได้ แต่ไม่เกิน 200,000 บาท |
กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ | จ่ายตามจริงแต่ไม่เกิน 10,000 บาท |
กองทุน กบข. / สงเคราะห์ครูฯ | 15% ของเงินได้ แต่ไม่เกิน 50,000 บาท |
กองทุนรวมเพื่อการออม (SSF) | 30% ของเงินได้ แต่ไม่เกิน 200,000 บาท |
กองทุนรวมเพื่อการออมพิเศษ (SSFX) | จ่ายตามจริงแต่ไม่เกิน 200,000 บาท |
กองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF) | 30% ของเงินได้ แต่ไม่เกิน 500,000 บาท |
กองทุนการออมแห่งชาติ (กอช) | 13,200 บาท |
3. กลุ่มลดหย่อนเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ | |
ดอกเบี้ยบ้าน | จ่ายตามจริงแต่ไม่เกิน 100,000 บาท |
โครงการซื้อบ้านครั้งแรก 2559 | 120,000 บาท |
4. กลุ่มเงินบริจาค | |
เงินบริจาคพรรคการเมือง | จ่ายตามจริงแต่ไม่เกิน 10,000 บาท |
เงินบริจาคเพื่อการศึกษา/ กีฬา/ การพัฒนาสังคม และโรงพยาบาลรัฐ | 2 เท่าของเงินบริจาคตามที่จ่ายจริงแต่ไม่เกิน 10% ของเงินได้หลังหักค่าลดหย่อน |
เงินบริจาคทั่วไป | ตามที่จ่ายจริงแต่ไม่เกิน 10% ของเงินได้หลังหักค่าลดหย่อน |
5. กลุ่มค่าลดหย่อนตามมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐ | |
ช้อปดีมีคืน | จ่ายตามจริงแต่ไม่เกิน 30,000 บาท สำหรับการซื้อสินค้าระหว่างวันที่ 23 ต.ค. – 31 ธ.ค. 2563 |
ข้อควรระวัง : สำหรับโครงการช้อปดีมีคืน มีข้อกำหนดเอาไว้ค่ะว่า ผู้ที่ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ หรือ ผู้ที่ลงทะเบียน ‘คนละครึ่ง’ จะไม่สามารถใช้สิทธิ์ช้อปดีมีคืนได้นะคะ
อัตราภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา
ส่วนอัตราภาษี มีดังนี้ค่ะ
เงินได้สุทธิต่อปี | อัตราภาษี |
0 – 150,000 | *ได้รับการยกเว้นภาษี* |
150,001 – 300,000 | 5% |
300,001 – 500,000 | 10% |
500,001 – 750,000 | 15% |
750,001 – 1,000,000 | 20% |
1,000,001 – 2,000,000 | 25% |
2,000,001 – 5,000,000 | 30% |
5,000,001 บาทขึ้นไป | 35% |
ตัวอย่างเช่น
นางสาว M ขายของออนไลน์มีรายได้ 1,000,000 บาท
คิดภาษีด้วยการหักค่าใช้จ่ายตามอัตราคือ 60% เท่ากับค่าใช้จ่าย 600,000 บาท
มีค่าลดหย่อนส่วนตัวเพียงอย่างเดียว 60,000 บาท
รายได้สุทธิของนางสาว M = 1,000,000 – 600,000 – 60,000 = 340,000 บาท
เงินได้สุทธิต่อปี | รายได้นางสาว A | อัตราภาษี | ภาษีที่ต้องจ่าย |
0 – 150,000 | 150,000 | *ได้รับการยกเว้นภาษี* | 0 |
150,001 – 300,000 | 150,000 | 5% | 7,500 |
300,001 – 500,000 | 40,000 | 10% | 4,000 |
500,001 – 750,000 | 15% | ||
750,001 – 1,000,000 | 20% | ||
1,000,001 – 2,000,000 | 25% | ||
2,000,001 – 5,000,000 | 30% | ||
5,000,001 บาทขึ้นไป | 35% | ||
รวม | 340,000 | 11,500 |
และนี่ก็คือการคำนวณภาษี และ ภาษีที่ต้องเสีย สำหรับพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ที่ไม่ได้จดทะเบียนห้างหุ้นส่วน หรือ บริษัทไว้ ในบทความต่อไปเราจะเจาะลึกถึงภาษีขายของออนไลน์สำหรับพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ที่จดทะเบียนนิติบุคคลไว้ ซึ่งจะต้องเสียภาษีเงินได้นิติบุคคลกันค่ะ
อบรมเก็บชั่วโมงผู้ทําบัญชี ผู้สอบบัญชี (CPD) ออนไลน์ learncpd.com